สุขภาพจิต

เคล็ดลับ สุขภาพจิตได้ สุขภาพกายดี

เคล็ดลับ สุขภาพจิตได้ สุขภาพกายดี

ร่างกายและจิตใจมีการเชื่อมโยงกัน หากสุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็ดีไปด้วย ในทางตรงข้ามสุขภาพจิตแย่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน เราจึงมี 5 วิธีสร้างสุขภาพจิตที่ดีมานำเสนอ เพื่อการสร้างสุขภาพดีแบบองค์รวม ไปดูกันว่าจะมีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้าง

วิธีการสร้างสุขภาพที่ดี

มีเป้าหมายในชีวิต การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างความรู้สึกของการเห็นคุณค่าในชีวิตตัวเอง ซึ่งจะทำให้เราสามารถวางแผนอนาคตได้ว่าควรทำอะไรต่อไป โดยการตั้งเป้าหมายนั้นก็ไม่ควรตั้งไว้สูงเกินไป เพื่อให้สามารถทำได้สำเร็จและเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง หากเราทำเป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จแล้ว ก็สามารถเพิ่มระดับความยากได้ แต่ก็ควรวางเป้าหมายไว้โดยดูที่ระดับความสามารถของเราเป็นหลัก ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป

รู้จักแบ่งปันอยู่เสมอ เมื่อการแบ่งปันเกิดขึ้น จะสร้างความรู้สึกดีทั้งผู้ให้และผู้รับ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพจิตดีด้วย และหากเวลาที่เกิดความรู้สึกท้อแท้ ลองมองไปที่คนที่ลำบากกว่าเรา ก็จะช่วยให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น ถ้ามีความสามารถก็ช่วยเหลือตามกำลังที่พอช่วยได้ ก็จะทำให้เห็นคุณค่าของการให้มากขึ้น

มองโลกในแง่ดี การมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอจะทำให้ไม่ประสบกับความเครียดบ่อย ๆ ซึ่งดีต่อทั้งสุขภาพกายและใจ เพราะเมื่อเกิดความเครียดก็จะมีสารอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นและสารเคมีในร่างกายต่าง ๆ ก็จะถูกหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ อย่างเช่น โรคกระเพาะ ไมเกรน ความดันโลหิตสูง รวมถึงอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้ด้วย

ให้อภัยอยู่เสมอ การฝึกตัวเองไม่ให้โกรธเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ เพราะถ้าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ มีอารมณ์โกรธได้ง่าย ก็จะทำให้เกิดความเครียดได้ง่ายขึ้น เพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งก็จะส่งผลเสียต่าง ๆ ตามมาทั้งปัญหาสุขภาพร่างกายและปัญหาทางสังคมได้อีกด้วย

ออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อออกกำลังกาย เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็จะมีการหลั่งสารหลากหลายชนิดที่ส่งผลดีต่อทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะทำให้มีสุขภาพดีแบบองค์รวมได้ โดยในหนึ่งสัปดาห์ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพดีอยู่เสมอ

ในปัจจุบันมีปัจจัยภายนอกมากมายที่ส่งผลให้สุขภาพแย่ลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ยาก เช่น มลพิษต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน สารเคมีที่อยู่ในอาหารและอากาศ รวมถึงความเครียดที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวด้วย ดังนั้นหากใครที่ต้องการมีสุขภาพดี ก็สามารถนำวิธีข้างต้นไปใช้ได้ทันที

วิธีการสร้างสุขภาพดี

วิธีลดเครียด แก้ปัญหาสุขภาพจิต ปี 2018

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเราอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่ทำให้มีความเครียดสูง การดูแลสุขภาพจิตด้วยการใช้เทคนิคต่าง ๆ ลดความเครียด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เรามาดูกันว่า ในปี 2018 มีเทคนิคลดความเครียดอะไรบ้าง ที่คนไทยนิยมกัน

1. การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิ่นเล่นหรือการวิ่ง ก็ทำให้ร่างกายได้หลั่งสารแห่งความสุข ทำให้ช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้การกระโดดเชือกหรือการเต้นแอโรบิก เพียงแค่ช่วง 1 เพลง หรือ 4 นาที ก็ทำให้ลดความเครียดและอารมณ์เบื่อเซ็งไปได้เกินครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

2. การฟังเพลงที่ชอบ ในช่วงเวลาเบรคจากงานทุก 20 นาที หรือระหว่างการอาบน้ำ สามารถช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น ทั้งยังทำให้ช่วงเวลาพักนี้เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่ให้สมองได้เบรค และ refresh จากเรื่องที่ครุ่นคิดอยู่ด้วย

3. การบริหารกล้ามเนื้อคอหลัง ไหล่ ในช่วงสั้น ๆ ระหว่างการทำงานทุกครึ่งชั่วโมง จะช่วยลดอาการตึงกล้ามเนื้อจากโรคออฟฟิซซินโดรม รวมถึงได้พักสายตา ลดอาการปวดตึงขมับจากความเครียดในการทำงานได้เป็นอย่างดี

4. การดื่มกาแฟเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของใครหลายคน แม้ได้กลิ่นกาแฟก็รู้สึก active ขึ้นมาแล้ว ทั้งนี้เพราะกาแฟมีสารคาเฟอีนซึ่งกระตุ้นร่างกาย ทำให้คลายจากความง่วงได้ แต่ก็ควรดื่มวันละ 1-2 แก้วเท่านั้น และไม่ควรดื่มหลังสี่โมงเย็น เพราะจะทำให้หลับยาก

5. การเคี้ยวช็อคโกแลตบาร์ ถั่ว อัลมอนด์และหมากฝรั่ง เป็นการทำให้เราได้ขยับช่วงขากรรไกร ซึ่งพบว่าสัมพันธ์กับอารมณ์เครียดที่จะลดลงได้ ทั้งนี้ยังมีการศึกษาพบว่าในช็อคโกแลตมีสารสำคัญตามธรรมชาติกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่จะทำให้อารมณ์เย็นและความคิดโลดแล่นขึ้นด้วย

6. การใช้กลิ่นอโรมาคลายเครียด จะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์จำพวกน้ำมันหอม หรือครีมโลชั่นสูตรอโรม่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทั้งในและต่างประเทศ เพราะมีการวิจัยแล้วว่ากลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นส้มซีตรัส จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลาย ลดความเครียดและทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น

7. การทำสมาธิ เป็นวิธีตามรู้ลมหายใจ เข้าออก สั้นยาว โดยไม่ไปบังคับ เป็นการฝึกให้มีสติและทำให้ลดความพลุ่งพล่านของอารมณ์ได้เป็นอย่างดี หากฝึกบ่อย ๆ จะทำให้ลดความรุนแรงของความโมโหและลดอาการ “โกรธง่าย หายช้า” ได้อย่างแน่นอน

ทั้งเจ็ดข้อที่กล่าวมา ล้วนเป็นเทคนิคที่คนไทยนิยมใช้สำหรับลดความเครียด ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพจิตของคนจำนวนไม่น้อย โดยในต่างประเทศก็มีคนอีกไม่น้อยใช้เทคนิคเดียวกันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของการฝึกสมาธิก็กำลังเป็นเทรนด์ที่นิยม เพราะมีการยืนยันแล้วว่าช่วยสร้างความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ ได้เป็นอย่างดี